กล่าวถึงหลวงพ่อคำ ชาตะสุโข แห่งวัดหัวทะเล สิ่งแรกที่ต้องนึกถึงก็คือตะกรุด จะเรียกว่าตะกรุดระดับตำนานอีกสำนักหนึ่งทางแถบภาคเหนือตอนล่างภาคกลางตอนบนก็ไม่ผิด ขึ้นชื่อลือชาขนาดที่ผู้บารมีในบ้านในเมืองเรา ต้องเสด็จมาเยือน เล่ากันว่าทำการทดลองจนหายข้องใจแล้วจึงทำบุญบูชาตะกรุดของหลวงพ่อไปแบบยกลังกันเลย ที่สำคัญไม่ได้มาแค่ครั้งเดียวครับ ผู้เขียนเคยไปนั่งคุยกับลุงอู๋บ้านอยู่หน้าวัดหัวทะเล เป็นศิษย์ที่เก็บวัตถุมงคลของหลวงพ่อไว้น่าจะเยอะที่สุดในขณะนั้น ลุงอู๋เล่าว่า
"ประมาณปี พ.ศ. 2520 ผู้มีบารมีท่านนี้มานมัสการหลวงพ่อโดยฮอลิคอปเตอร์ หลวงพ่อได้มอบตะกรุดให้ เมื่อผู้มีบารมีท่านนี้ได้รับมาแล้ว ได้ทำการทดลองที่หน้าวัดด้วยปืนพกชนิดแม๊กกาซีนจนหมดแม๊ก ปรากฎว่าไม่มีกระสุนนัดใดทำงานเลย หลังจากนั้นลุงอู๋ได้เข้าไปไต่ถามว่าใครมาหาหลวงพ่อดึกๆดื่นๆด้วยเหตุว่า ท่านเป็นพระบ้านนอก และเคร่งครัดในธรรมวินัยไม่ใช้โทรทัศน์ หลวงพ่อตอบออกมาแบบซื่อๆว่าท่านไม่รู้ แต่หน้าเหมือนกับคนในรูปที่แขวนอยู่ข้างฝานั่นแหละ"
คุณตาปลั่งบุตรเขยของตาครูผู้ที่ช่วยหลวงพ่อทำตะกรุดเล่าว่าก่อนที่ตะกรุดหลวงพ่อจะโด่งดังเข้าไปในแวดวงของเหล่าทหารหาญนั้น มีเรื่องที่แกได้ยินมาจากคนอื่นอีกทีว่า มีทหารที่ได้รับแจกตะกรุดจากหลวงพ่อไป ถูกระเบิดลงกลางวงข้าว ทหารที่คาดตะกรุดของหลวงพ่อ 4 นายไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างไรเลย ส่วนอีกนายที่ไม่มีตะกรุดของหลวงพ่อตายอย่างน่าสยอง เอาเป็นว่าของที่หลวงพ่อตั้งใจอธิษฐานจิตเสกเป่าไปให้แล้วแม้เพียงพ่วงเดียว หากวิบากกรรมที่จะมาตัดรอนนั้นไม่รุนแรงนักย่อมเป็นที่พึ่งได้...เอาเป็นว่าถ้าคาดไว้แล้วไม่ทำผิดข้อห้ามของหลวงพ่อเรียกว่าไม่หนักเอวป่าวก็แล้วกัน
ประสบการณ์ตะกรุดของหลวงพ่อถ้านำมาเรียบเรียงทั้งหมดล่ะก้อ..สนุกครับ ผู้เขียนก็มีโครงการคร่าวๆเอาไว้ว่าจะทำ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพและภาระกิจด้วย