หลวงพ่อแบน วัดโคกสุก ต.โคกสุก อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ท่านเป็นศิษย์สายหลวงปู่ศุขที่ได้รับถ่ายทอดวิทยาคมต่อจากหลวงพ่อบุญยังไว้มากที่สุด ชาวบ้านในละแวกนั้น ทราบกันดีว่าท่านเป็นศิษย์เอกของหลวงพ่อบุญยังรุ่นอาวุโส ท่านเดินทางไปศึกษาอยู่กับหลวงพ่อบุญยัง 2-3 ปี ความใกล้ชิดของท่านขนาดที่หลวงพ่อยังอนุญาตให้นอนค้างในกุฏิของท่านเลยทีเดียว ภายหลังจึงถูกนิมนต์มาเป็นเจ้าอาวาสวัดโคกสุก แต่กระนั้นก็ยังไปมาหาสู่เพื่อต่อวิชาเพิ่มเติมกับหลวงพ่อยังอยู่ตลอดเวลาจนกระทั่งหลวงพ่อบุญยังท่านสิ้นบุญ หลวงพ่อแบน อิสสระวังโส ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดโคกสุกตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๘๙ ๒๕๑๙ หลวงพ่อท่านเป็นพระใจดีมีเมตตาโดยเฉพาะพวกเด็กๆทั้งเณรทั้งเด็กวัด ท่านรับไว้ในอุปการะเป็นจำนวนมาก เมื่อท่านทดลองวิชาของท่านในครั้งแรกๆ นั้นท่านได้ทดลองทำตะกรุดแล้วโยนลงไปในสระหลังวัด ดอกไหนลอยขึ้นมาเองจึงจะถือว่าใช้ได้ ปรากฎว่าตะกรุดที่ทำด้วยตะกั่วมีน้ำหนักมากกลับลอยน้ำได้อย่างน่าอัศจรรย์ มาในระยะหลังเมื่อหลวงพ่อสร้างโรงเรียนขึ้นเพื่อสงเคราะห์แกบรรดาเด็กๆให้ได้รับการศึกษา จากการสร้างโรงเรียนในครั้งนั้นก่อให้เกิดการขัดผลประโยชน์ต่อกลุ่มอิทธิพลท้องถิ่น ประกอบกับเจตนารมณ์อันแรงกล้าของหลวงพ่อที่ต้องการให้พวกโจรขโมยและกลุ่มเสือต่างๆ ซึ่งมีอยู่มากในสมัยนั้น กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีประกอบสัมมาชีพโดยสุจริต ท่านจึงต้องกำราบแบบหนักๆ พวกที่กลับใจได้ก็มี แต่ไอ้พวกที่หูหนวกตาบอดใจคอมืดมิดไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษก็มีอยู่เช่นกัน สัตว์นรกพวกนี้นี่เองที่ประทุษร้ายต่อหลวงพ่อให้ถึงกับชีวิต เหตุการณ์คราวนั้นรุนแรงถึงขนาดชาวบ้านต้องตั้งเวรยามสับเปลี่ยนกันมาอารักขาหลวงพ่ออย่างเหนียวแน่น หลวงพ่อท่านเลี้ยงลิงลมไว้ตัวหนึ่งเป็นลิงที่หลวงพ่อเสกของให้กินจนกระทั่งเป็นลิงที่แสนรู้และมีคุณสมบัติพิเศษมาก เจ้าลิงลมตัวนี้ช่วยให้หลวงพ่อรอดจากการถูกลอบยิงอยู่หลายครั้ง หลวงพ่อมาเสียท่าก็ตอนที่หลวงพ่อมารับนิมนต์มาทำบุญบ้านเสือดิน ในช่วงเช้าในขณะที่ท่านกำลังฉันภัตตาหารอยู่นั้น ตำรวจล้อมจับตัวเสือดินแล้วเกิดการยิงต่อสู้ หลวงพ่อโดนลูกหลงในขณะฉันข้าว ซึ่งถือว่าเป็นเวลาที่ทวารเปิด หลวงพ่อถึงกับมรณะภาพในครั้งนั้นนั่นเอง ตรงกับปี พ.ศ.๒๕๑๙
