ผู้เขียน หัวข้อ: พระครูโสภณนาคกิจ อาจารย์เดช อายุวฑฺฒโก เจ้าคณะอำเภอบ้านนา เจ้าอาวาสวัดช้าง  (อ่าน 2553 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

Adk System Advertising

ออฟไลน์ ต้นบ้านนา

  • ที่ปรึกษาเว็บไซต์
  • สมาชิกใหม่
  • *
  • ขอบคุณ
  • -ให้: 1
  • -รับ: 17
  • กระทู้: 122
  • พลังน้ำใจ 18
  • 089-0115950
พระครูโสภณนาคกิจ หรือพระอาจารย์เดช (เสนาะ อายุวฑฺฒโก) อายุ ๔๓ พรรษา ๑๕
ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง เจ้าคณะอำเภอบ้านนา เจ้าอาวาสวัดช้าง อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก


ชาติภูมิ
นามเดิม ชื่อ เสนาะ นามสกุล หอมจันทร์
เกิดวันเสาร์ ที่ ๕ เดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๑๓ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๑๐ ปีจอ
บิดาชื่อ พ่อแสวง มารดาชื่อ แม่สำเนียง นามสกุล หอมจันทร์
บ้านเลขที่ ๓๗/๑ หมู่ที่ ๗ ตำบลบ้านนา อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
ท่านเกิดในตระกูล หอมจันทร์ มีพี่น้องร่วมบิดา มารดา ด้วยกัน 4 คน ท่านเป็นบุตรคนที่ 3
1. นางรัชนีย์ หอมจันทร์
2. นางสำเนา หอมจันทร์
3. นายเสนาะ หอมจันทร์ ( พระครูโสภณนาคกิจ อาจารย์เดช เจ้าอาวาสวัดช้างรูปปัจจุบัน)
4. นายมาโนช หอมจันทร์

บรรพชา-อุปสมบท
วันอังคารที่ ๒๔ เดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๔๑ แรม ๑๒ ค่ำ เดือน ๔ ปีฉลู วัดช้าง ตำบลพิกุลออก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
พระอุปัชฌาย์ พระครูปลัดธงชัย อติภทฺโท อดีตเจ้าอาวาสวัดช้าง
พระกรรมวาจาจารย์ พระทองล้วน เขมฺปาโล เจ้าอาวาสวัดดอนเปร็ง
พระอนุสาวนาจารย์ พระนิยม วชิโร วัดช้าง

วิทยฐานะ
* พ.ศ. ๒๕๒๘ สำเร็จการศึกษาในระดับมัทยมศึกษาตอนต้น ชั้นปีที่ ๓ โรงเรียนบ้านนา “ นายกพิทยากร” อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
* พ.ศ. ๒๕๔๘ สอบได้ น.ธ.เอก วัดช้าง ตำบลพิกุลออก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ภาค ๑๒

การศึกษาพิเศษ
มีความชำนาญในด้าน อ่าน เขียน อักษรขอม ได้เป็นอย่างดี ความชำนาญคือ นวกรรม พิธีพุทธาภิเษก เทวาภิเษก ศาสนะพิธีต่าง ๆ ท่านมีความเชี่ยวชาญทางด้านศาสนพิธีต่าง ๆ เช่น พิธีจัดพุทธาพิเษกวัตถุมงคล พิธีโยงสายสินจ์ตรีนิสิงเหภายในพระอุโบสถ พิธีวางศิลาฤกษ์ วิชาเด่นของท่านคือวิชาดูบาตรของหาย (ท่านไม่ได้ดูให้ทั่วไปนะครับจะดูให้ก็เฉพาะเมื่อครั้งที่จำเป็นเท่านั้น)

การปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ. ๒๕๔๒ ได้รับแต่งตั้งผู้ช่วยเจ้าอาวาส วัดช้าง ตำบลพิกุลออก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
พ.ศ. ๒๕๔๕ ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดช้าง ตำบลพิกุลออก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดช้าง ตำบลพิกุลออก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
พ.ศ. ๒๕๔๖ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระกรรมวาจาจารย์ วัดช้าง ตำบลพิกุลออก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
พ.ศ. ๒๕๕๓ ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะตำบล พิกุลออก อำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก
๒๑ มิถุนายน ๒๕๕๖ ได้รับแต่งตั้งเป็น เจ้าคณะอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก

สมณศักดิ์
๑๕ เมษายน พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูสังฆรักษ์ ดำรงตำแหน่งฐานานุกรมใน พระราชวิจิตรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหารเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พระราชาคณะชั้นราช
พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้รับแต่งตั้งเป็นพระครูปลัด ดำรงตำแหน่งฐานานุกรมใน พระราชวิจิตรปฏิภาณ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหารเขตพระนคร กรุงเทพมหานคร พระราชาคณะชั้นราช
พ.ศ. ๒๕๕๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์แต่งตั้ง เป็น พระครูสัญญาบัตรพัดยศชั้นเอก ในราชทินนามที่ พระครูโสภณนาคกิจ (จร. ชอ.)

การศึกษาพุทธาคม
อาจารย์เดช วัดช้าง ผู้สืบทอดมนต์ตรา สายสำนักวัดช้าง เมื่อครั้งอดีตในยุคของ “ท่านพระครูธวัชภัทราภรณ์ หรือ อาจารย์ต๊ะ” อดีตเจ้าอาวาสวัดช้าง เจ้าอาวาสรูปที่ 9 พระหลานชายของท่านอาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร (อ.หนู) อาจารย์ต๊ะ ท่านเป็นผู้สืบทอดตำนานการสร้าง “พระกริ่งใหญ่ วัดช้าง” อันลือลั่น เป็นที่รู้จักกันดีในวงการผู้ที่นิยมพระกริ่งในเมืองไทย ทั้งนี้พระกริ่งวัดช้างถือเป็นพระกริ่ง ที่มีความเป็นมาเกี่ยวพันกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์เทพวราราม ภายหลังจากที่ท่านพระครูธวัชภัทราภรณ์ (อาจารย์ต๊ะ) มรณภาพลง

เจ้าอาวาสรูปที่10 ของวัดช้าง รูปปัจจุบันคือ ท่านพระครูโสภณนาคกิจ อาจารย์เดช วัดช้าง ท่านเป็นศิษย์เอกสายตรงก้นกุฏิ “พระครูธวัชภัทราภรณ์ หรือ พระอาจารย์ต๊ะ” อดีตเจ้าอาวาสวัดช้าง ผู้ที่ได้รับการถ่ายทอดวิชาการสร้างพระกริ่งดังของวัดช้าง สายตรงเพียงรูปเดียว ในจังหวัดนครนายก ที่สัมผัสและเรียนรู้จากท่านอาจารย์ต๊ะ อีกทั้งยังได้มีโอกาสเรียนรู้ขอคำชี้แนะ ขอคำปรึกษา และศึกษาจากท่านนิรันตร์ แดงวิจิตร อาจารย์หนู เพิ่มเติมอีกด้วย อาจารย์เดช ท่าน ศึกษาวิชาในสายสำนักวัดช้างสั่งสมประสบการณ์ ความรู้ ความสามารถ ในการจัดสร้างพระกริ่งวัดช้าง เททองหล่อดินไทยโบราณ หรือที่บางท่านเข้าใจว่าพระกริ่งหล่อดินไทยโบราณ อุดกริ่งในตัว

ท่านให้ความสนใจหมั่นฝึกฝน ศึกษาวิชาตำราหลักต่าง ๆ ของวัดช้าง ที่สืบทอดมาจากอดีตเจ้าอาวาส พระครูภัทรกิจโกศล (หลวงปู่ภู) ภทฺทญาโน และ พระครูธวัชภัทราภรณ์ อติภทฺโท อาจารย์ต๊ะ อดีตเจ้าอาวาสวัดช้าง ทั้ง 2 รูป ผู้เป็นอาจารย์ พระอาจารย์เดชท่านให้ความสนใจเป็นพิเศษโดยเฉพาะตำราการจัดสร้างพระกริ่งวัดช้าง นับได้ว่าในยุคปัจจุบันนี้ สายสืบทอดวิชาการจัดสร้างพระกริ่งแห่งเมืองไทย วัดสุทัศน์เทพวราราม และ วัดช้าง ยังมิสูญหายไปจากตำนานอย่างแน่นอนครับ

ทุก ๆ วันเพ็ญเดือน 12 วันลอยกระทงของทุกปี ท่านจะดำเนินการจัดสร้างพระกริ่งของท่านทุกครั้งตามประเพณีโบราณ หากเพียงแต่ว่า การจัดสร้างในแต่ละรุ่นของท่านในปัจจุบันหรืออนาคต ในวาระและพิธีอันสำคัญใด ๆ ก็ตาม ท่านจะจัดสร้างไว้ไม่มากนักในแต่ละปี ในยุคปัจจุบันนี้ วัตถุมงคลของท่านที่จัดสร้างขึ้นมาแต่ละรุ่น เจตนาในการจัดสร้างและวัตถุประสงค์ของท่านมีอยู่อย่างชัดเจน ไม่มีสื่อโฆษณา ไม่มีข่าวประชาสัมพันธ์มากมายนัก หากมีโครงการสร้างหรือบูรณะ ก็จะมีการประชาสัมพันธ์กันอย่างเรียบง่าย แต่วัตถุมงคลของท่านก็ได้รับความนิยมจากศิษย์สายตรงเป็นอย่างยิ่ง เพราะโดยส่วนใหญ่วัตถุมงคลของท่าน สร้างขึ้นมาเพื่อแจกฟรี มอบเป็นที่ระลึกสมนาคุณแก่ผู้ที่มาร่วมสมทบทุนสร้างในโครงการก่อสร้างเสนาสนะหรือถาวรวัตถุ นั้น ๆ แทบทั้งสิ้น

อาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร เมื่อสมัยที่ท่านยังแข็งแรงดี ท่านเมตตามอบชนวนมวลสาร ก้านช่อพระกริ่ง ชนวนพระกริ่งเก่าแก่ ตั้งแต่ในสมัยท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช แพ ทั้งหมด จำนวนมาก ทั้งชนวนที่หล่อหลอมเป็นแท่ง เป็นก้อน เงินพดด้วงสมัยเก่า อื่น ๆ อีกมากมาย ที่จะสามารถนำมาจัดสร้างเป็นพระกริ่งของวัดช้างรุ่น ต่อ ๆ ไป ท่านมอบให้กับอาจารย์เดช เพื่อให้ท่านได้เก็บรักษาไว้และจะได้นำมาเป็นส่วนผสมในการจัดสร้างพระกริ่งของวัดช้างในครั้งต่อ ๆ ไปในอนาคต นอกเหนือจากนั้นแล้วอาจารย์เดชท่านยังได้มีโอกาสสืบเสาะแสวงหาวิชาความรู้เพิ่มเติม เมื่อครั้งที่ท่านอุปสมบทใหม่ ๆ ท่านได้ศึกษาเรียนรู้อักขระเลขยันต์จากหลวงพ่อเหลือ วัดช้าง (ศิษย์หลวงพ่อเกิด วัดสะพานอีกรูปที่ยังอยู่ในยุคนั้น

อาจารย์เดชท่านฝากตัวเป็นศิษย์ ได้ศึกษาวิชาลงตะกรุดจาก หลวงพ่อพระครูอนุรักษ์วรคุณ (หลวงพ่อสง่า อนุปุพโพ ) วัดบ้านหม้อ พระเกจิอาจารย์เรืองวิทยาคมชื่อดังแห่งลุ่มน้ำแม่กลอง จังหวัดราชบุรี เรียนวิชาเป่ากระหม่อมจากหลวงพ่อฟ้าลิขิต วัดโสภณวนาราม จังหวัดลพบุรี เรียนนะเมตตาจากหลวงพ่อรวย วัดตะโก จังหวัด พระนครศรีอยุธยา อีกทั้งท่านยังเป็นศิษย์ที่เคารพและนับถือได้รับคำแนะนำการทำน้ำมนต์ จาก พระอาจารย์สาท (อาจารย์โม่ง) ธรรมโชติ วัดขนอนเหนือ พระหลานชายแท้ ๆ ของหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ อยุธยา ศิษย์สายตรงผู้สืบทอดวิชาสักยันต์ พระนารายณ์ พระบุตร-พระลบ หนุมาน ราชสีห์ อันโด่งดังแห่งเมืองกรุงเก่าศรีอยุธยา ตลอดจนได้ศึกษาวิชาต่าง ๆ เพิ่มเติมจาก ปู่พาน ฆารวาสชื่อดังแห่งอำเภอบ้านนา ผู้สืบสานมนต์ตรา และเป็นศิษย์เอกก้นกุฏิ ของ หลวงพ่อเกิด วัดสะพานเพิ่มเติมอีกด้วย

ปฏิปทาศีลวัตร

พระอาจารย์เดช ท่านเป็นพระที่มีอัธยาศัยไมตรีเปี่ยมด้วยเมตตา ปฏิปทาศีลวัตรงดงามบริสุทธิ์ เรียบง่าย ท่านใฝ่ใจในเรื่องที่เป็นวัฏสงสาร การเกิดแก่เจ็บตาย บุญกรรมสิ่งลี้ลับ ธรรมชาติ โดยเฉพาะเรื่องเวทมนต์ถาถาอาคมอักขระเลขยันต์เป็นพิเศษ ซึ่งมีอุปนิสัยใจคอมาตั้งแต่วัยเด็ก จึงเป็นแรงจูงใจให้ใฝ่ศึกษาเล่าเรียนรู้แล้วปฏิบัติให้เข้าถึงรู้แจ้งเห็นจริง ศิษย์ผู้ใกล้ชิดของท่านพระอาจารย์เดช หรือแม้แต่บุคคลทั่วไปที่เคารพนับถือท่านต่างรู้กันเป็นอย่างดีว่า ท่านเป็นพระอริยะสงฆ์ผู้มากด้วยเมตตาเป็นอย่างยิ่ง ในปัจจุบันด้านวัตถุมงคลของท่านไม่ว่าจะเป็นรุ่นใด ลูกศิษย์ของท่านก็มักจะนิยมเก็บกันทั้งสิ้นเพราะเนื่องจาก ได้นำไปใช้กันแล้วยังมีประสบการณ์ให้กับลูกศิษย์ลูกหาของท่านมากมาย และเป็นที่ชื่นชอบของชาวกรุงเทพ ที่มากับทัวร์ท่องเที่ยว และ ขสมก ไหว้พระ 9 วัด ลูกศิษย์เขตประเวศ ถนนข้าวสาร ตรอกมะยม ชลบุรี-พัทยา อยุธยา ทหารราชวัลลภ (วังสุโขทัย) ฉะเชิงเทรา สระบุรี สมุทรปราการ รวมทั้งลูกศิษย์ชาวต่างชาติ ต่างให้ความเคารพนับถือท่านเป็นอย่างมาก และที่อื่นอีกมากมายทั่วทุกสารทิศ

วัตถุมงคลของท่านมักจะถูกเก็บก่อนจากศิษย์สายตรงหรือคนใกล้ชิด ผู้ที่มีต่างก็หวงแหนกันมากไม่ปล่อยออกไปกันง่าย ๆ และปัจจุบันก็เริ่มที่จะหายากมากขึ้น พระอาจารย์เดชท่านใจดีและเมตตาสูง ไม่เลือกที่จะแบ่งชนชั้น ยากดีมีจนท่านต้อนรับทั้งสิ้น ชาวบ้านในแถบอำเภอบ้านนา หรือในจังหวัดใกล้เคียง ต่างรู้กันดีว่าท่านเมตตาเป็นอย่างมาก ท่านตั้งใจและมุ่งมั่นในการจัดสร้างเสนาสนะบูรณะซ่อมแซมทุกสิ่งทุกอย่างไป แม้แต่บางครั้งปัจจัยในการจัดสร้างไม่เพียงพอแต่ท่านก็ยังดำเนินการต่อไปเรื่อย ๆ จนสำเร็จไปได้ด้วยดีตลอดมา ปัจจุบันนี้ท่านก็ยังเป็นพระผู้มากด้วยเมตตาอยู่เสมอใครเดือดร้อน หรือเป็นทุกข์ประการใดเข้าไปหาไปกราบท่าน ท่านก็จะชี้แนะและช่วยเหลือ หรือแม้แต่วัดวาอารามต่าง ๆ ที่ขอความช่วยเหลือมาถ้าท่านช่วยได้ก็ช่วยเหลือกันไป ท่านมีแต่สงเคราะห์ช่วยเหลือแผ่เมตตาบารมี

อาจารย์เดชท่านเป็นพระสุปฏิปันโน ผู้บริสุทธิ์ ด้วยไตรสิกขาเปี่ยมด้วยเมตตาบารมีธรรม ถือสัจจะเป็นที่ตั้ง อัธยาศัยไมตรียิ้มแย้มแจ่มใส ต้อนรับการปฏิสันถารญาติโยมด้วยความเป็นกันเอง นับตั้งแต่ พระครูโสภณนาคกิจ ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดช้าง ท่านได้ประพฤติปฏิบัติวางตนอยู่ในกรอบของพระธรรมวินัยปฏิบัติตามกฎมหาเถรสมาคม ระเบียบแบบแผนของทางราชการ ได้จัดทำผังวางแผนพัฒนาวัดในด้านต่างๆ ร่วมกับคณะกรรมการวัด ญาติโยมสาธุชนทำให้คณะสงฆ์ และญาติโยมผู้อุปการะวัดมีความสมัครสมานสามัคคี ร่วมแรง ร่วมใจ ให้ความอุปถัมภ์บำรุงพระพุทธศาสนา พระสงฆ์ – สามเณร และช่วยเหลือกิจศาสนามาด้วยดี จึงสามารถพัฒนาสิ่งปลูกสร้าง เสนาสนะภายในวัดหลายอย่าง จนสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีตลอดมาจนปัจจุบัน

ด้านวัตถุมงคลของท่าน

ในปีพ.ศ.๒๕๔๖ พระอาจารย์เดช ท่านได้จัดสร้างพระกริ่งรุ่นแรก "รุ่นช้างสามเศียร"รุ่นนี้ขึ้น ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุมงคล รุ่นแรกของท่านอาจารย์ สร้างเพื่อ"บูชาพระคุณครูบาอาจารย์" ทำพิธีเททองหล่อพระกริ่งที่วัดช้าง ในฤกษ์ วันวิสาขบูชา สร้างและเสกเดี่ยวตลอดไตรมาส แจกกรรมการวัดและศิษย์ใกล้ชิด จัดสร้างน้อยเพียง 108 องค์เท่านั้นชนวนพระกริ่ง ส่วนใหญ่จะเอาชนวนเก่าที่สร้างพระกริ่งของวัดช้างที่ตกทอดสืบต่อกันมายาวนาน อีกพร้อมทั้งตะกรุดเก่าอาจารย์ต๊ะ, ตะกรุดหลวงพ่อภู วัดช้าง,ตะกรุดและชนวนเก่าของหลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือเป็นต้น พระกริ่งทุกองค์เนื้อจะแก่เงินออกกระแสเงินค่อนข้างมาก เพราะพระอาจารย์เดช ท่านใส่เงินพดด้วงลงไปเป็นจำนวนมาก อีกทั้งทองคำ,และชนวนมวลสารทั้งเก้าชนิด นำมาหล่อเป็นพระกริ่งรุ่นนี้ ซึ่งรวมเรียกว่า "เนื้อ นวโลหะ-หล่อโบราณ" เป็นวัตถุมงคลของท่านที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่ทำให้ลูกศิษย์อยากได้ครอบครองบูชา

นอกเหนือจากนั้นแล้วท่านได้จัดสร้าง พระกริ่งรุ่น 2 รุ่น ภัทรกิจโกศล (ภู) ปี 2547 จัดสร้างในจำนวนเท่า พ.ศ 2547 องค์ พิมพ์กรรมการอีกจำนวน 287 องค์ เปิดให้สั่งจองเช่าบูชา เพื่อนำรายได้มาดำเนินการ สมทบทุนสร้างวิหารครอบหลวงพ่อดำหลังใหญ่ ตามเจตจำนงของพระครูธวัชภัทราภรณ์ที่ก่อกำเนิดขึ้นมา พิธียิ่งใหญ่ครั้งประวัติศาสตร์ของท่านด้วยพระคณาจารย์ชื่อดังแห่งยุคกว่า 39 รูป และรุ่นอื่น ๆ ตามวาระที่ได้จัดสร้างขึ้นมาเพื่อสมทบทุนสร้างเสนาสนะต่าง ๆ ภายในวัดทั้งสิ้น

ส่วนเครื่องรางวัตถุมงคลที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ของท่าน นั่นคือ ช้างมงคล รุ่นแรก – รุ่นปัจจุบัน ตะกรุดโทนรุ่นแรก ตะกรุดหนังเสือรุ่นแรก เหรียญหนุมาน 10 กร อื่น ๆ ตามวาระอันเป็นมงคล เป็นเครื่องรางที่มากด้วยประสบการณ์ลูกศิษย์ท่านส่วนใหญ่นิยมช้างมงคล เพราะมีความหมายที่ดีมีมงคล ช้าง เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างสูงใหญ่ ทางด้านฮวงจุ้ยนำช้างมาใช้ในเรื่องความสูงใหญ่ เปรียบเสมือนภูเขาใหญ่ที่มั่นคง เป็นมงคล ช่วยให้สมปรารถนา เกิดลาภผลการค้า ความสำเร็จ ความเจริญรุ่งเรือง ลูกศิษย์ท่านเมื่อมาถึงวัดช้างครั้งใดลูกศิษย์ลูกหาของท่านก็มักจะมีคำถามว่า ช้างมงคลมีให้เช่าบูชาหรือไม่หมดหรือยัง เป็นที่ต้องการเป็นอย่างมาก ในปัจจุบันนี้ถึงจะเป็นเครื่องรางที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ แต่ก็ได้รับความนิยมจากลูกศิษย์ท่านแทบทั้งสิ้น สร้างมาครั้งใดก็หมดจากวัดอย่างรวดเร็ว ถูกเก็บหมดจากศิษย์สายตรงไม่มีหลุดออกมาในสนามพระให้เห็น วัตถุมงคลของท่านส่วนใหญ่ท่านจะปลุกเสกเดี่ยวของท่านด้วยตัวเอง ภายในบนกุฏิของท่านเป็นประจำ ก่อนที่จะมอบให้ลูกศิษย์ได้ใช้และอาราธนาบูชาต่อไป

ผู้เขียนมีประสบการณ์โดยตรงที่พบเห็นเมื่อครั้งที่ท่านได้รับฎีกาอาราธนาไปนั่งปรกที่วัดสุทัศน์เทพวราราม ท่านได้นำช้างมงคลรุ่นแรกใส่ย่ามติดไปเสกด้วย ในวัน เสาร์ที่ 16 กรกฎาคม ปี 2548 ในพิธีพระพุทธชินราชหมื่นยันต์ ในวันนั้นมีพระเถระคณาจารย์มากมายจากทั่วทุกสารทิศ ทั่วประเทศ นั่งปรกเต็มทั้งภายในและภายนอกพระอุโบสถวัดสุทัศน์เทพวราราม หลังจากที่ท่านนั่งปรกมาเป็นเวลาไปนานกว่าชั่วโมง ท่านเดินลงมาจากภายในพระอุโบสถเพียงเวลาชั่วครู่ก็มีประชาชนที่เข้าร่วมพิธีในพระอุโบสถในวันนั้นเป็นจำนวนมาก พอเห็นท่านเดินลงมาก็เข้ามาเพื่อขอวัตถุมงคลของท่าน ในวันนั้น ลูกศิษย์ลูกหาท่านเบียดเสียดกันเยอะมากต่างก็อยากได้มีไว้ครอบครองกันแทบทั้งสิ้น

บางท่านอายุมากแล้วแต่ก็ยังฝืนเบียดเสียดเข้ามาเพื่อขอช้างมงคลรุ่นแรกนี้ให้ได้ ด้วยแรงศรัทธาของลูกศิษย์ท่านดีมากครับ และปัจจุบันนี้ช้างมงคลรุ่นแรก ก็ถูกแสวงหาเก็บเช่าบูชากันค่อนข้างมากจากในกรุงเทพและปริมณฑล หรือจังหวัดอื่น ๆ ใกล้เคียง ที่เคารพนับถือ ในเรื่องของเครื่องรางที่ท่านจัดสร้างขึ้นมา ส่วนใหญ่ท่านก็จะแจกอย่างเดียว แล้วแต่ญาติโยมที่จะร่วมทำบุญ ไม่มีการกำหนดราคาท่านจะแจกให้ฟรี ใครที่ผ่านมาแวะเข้ามากราบท่าน ไม่ว่ายากดีมีจน ท่านก็แจกให้หมดทุกคน เป็นว่าถ้ามาวัดช้างครั้งใดต้องได้รับช้างมงคลติดมือกลับกันไปแทบทั้งสิ้น และปัจจุบันนี้ ช้างมงคลของท่านถูกสร้างขึ้นมาหลายรุ่นแล้วเนื่องจากไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกศิษย์ท่าน ที่มาจากทั่วทุกสารทิศ อาจารย์ท่านเคยพูดไว้ว่า เขามาไกล เขาตั้งใจมาหาเรา เราควรให้เขากลับไปบ้าง ท่านใดผ่านมาก็ขอเชิญแวะมากราบท่านและอย่าลืมขอช้างมงคลท่านกันนะครับตั้งแต่นั้นมาจนถึงทุกวันนี้ ท่านก็ยังสร้างและแจกฟรีอยู่ตลอดครับ ......

ปัจจุบันอาจารย์เดช วัดช้าง ท่านเป็นพระนักพัฒนารูปหนึ่งของอำเภอบ้านนา จังหวัดนครนายก ผลงานการสร้างเสนาสนะสงฆ์ตลอดทั้งถาวรวัตถุต่างๆ ปรากฏเป็นรูปธรรม พัฒนาบูรณะวัดให้เจริญรุ่งเรือง อย่างมากมาย เช่น ก่อสร้างวิหาร ( พระพุทธมหามุณีศรีวรเขตนายก สาธกสรรพมงคลมหาชนอภิปูชะนี หรือ หลวงพ่อดำ หน้าตักขนาดกว้าง 9 ศอก สูง 13 ศอก ) ได้รับความเมตตาจาก พระเดชพระคุณหลวงพ่อ พระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศนเทพวราราม ราชวรมหาวิหาร ตั้งชื่อให้ บูรณะพระอุโบสถ วิหารภัทรกิจโกศล ถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้านหมู่ที่ 7 ศาลาธรรมสังเวช ลานจอดรถ ศาลาเอนกประสงค์ ห้องน้ำ กุฏิสงฆ์อาคารธวัชภัทราภรณ์ ศาลาชุนกีศิลาทอง กุฏิเจ้าอาวาส จัดเตรียมสถานที่สอบธรรมสนามหลวง ณ โรงเรียนอนุบาลบ้านนา (วัดช้าง) ถนนคอนกรีตเข้าออกหมู่บ้านช้าง ระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร

สร้างหอพระไตรปิฏก ขนาด 3 ชั้น และดำเนินโครงการก่อสร้างศาลาบารมีพระพรหมสุธี ประชาสามัคคีรวมใจ (หอประชุมสงฆ์) เป็นศาลาเอนกประสงค์ชั้นเดียวขนาดกว้าง 18 เมตร ยาว 36 เมตร
นอกจากนั้นแล้วท่านยังได้บริจาคเงินเพื่อจัดซื้อครุภัณฑ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลบ้านนา บูรณะซ่อมแซมตึกสงฆ์อาพาธโรงพยาบาลนครนายก ได้ร่วมโครงการจัดตั้งศูนย์ ICT ให้กับโรงเรียนอนุบาลบ้านนา (วัดช้าง) กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ส่งเสริมให้ภิกษุสามเณรทำความสะอาดภายในวัด ส่งเสริมประเพณีสำคัญทางพระพุทธศาสนา เช่น เวียนเทียนวันวิสาขบูชา ประเพณีลอยกระทง ประเพณีสงกรานต์ ส่งเสริมกิจกรรมนักศึกษาวิทยาลัยนาฏศิลป์ ให้การสนับสนุนการศึกษาปริยัติธรรมของพระสงฆ์ – สามเณร และท่านยังมอบทุนการศึกษาแก่เด็กยากจน ของเด็กนักเรียน โรงเรียนวัดช้างเป็นประจำในทุก ๆ ปี อีกด้วย



Share me

Digg  Facebook  SlashDot  Delicious  Technorati  Twitter  Google  Yahoo
Smf