อาจารย์ ปรเมษฐ์ ได้เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า สมณศักดิ์ ที่หลวงพ่อเชื้อ ท่านได้รับในครั้งนี้
อาจารย์ปรเมษฐ์ เป็นผู้ขอให้เอง โดยเริ่มแรกนั้น ได้ขอกับเจ้าคณะภาคก่อน แต่เจ้าคณะภาคได้บอกว่า
ให้ไปขอกับเจ้าคณะจังหวัดก่อน หากไม่ได้ให้กลับมาบอก อาจารย์ปรเมษฐ์จึงเดินทางไปจังหวัดชัยนาท
ขอเข้าพบเจ้าคณะจังหวัด เพื่อขอสมณศักดิ์ให้กับหลวงพ่อเชื้อ แต่ไม่ได้ จึงเดินทางกลับกรุงเทพฯ
แจ้งกับเจ้าคณะภาค ว่าไม่ได้ เจ้าคณะภาคจึงได้แต่งตั้งให้หลวงพ่อเชื้อเองโดยตรง โดยครั้งนั้น
เจ้าคณะภาคตั้งชื่อให้ว่า "พระครูสักกวิชัย" แต่อาจารย์แกรู้สึกธรรมดาไปจึงขอให้ตั้งใหม่
โดยครั้งนี้ตั้งเป็น "พระครูสุชัยบุญยาคม" ก็เป็นที่พอใจ จึงได้ใช้ตั้งชื่อนี้ ตั้งแต่นั้น
แกเล่าให้ฟังสนุก ๆ ว่า ครั้งหนึ่ง เจ้าคณะจังหวัดไปพบเจ้าคณะภาค ท่านกระเซ้ากันว่า แซงกันเลยนะครับ
เรื่องจำนวนการจัดสร้างนั้น อาจารย์แกเล่าให่ฟังเพิ่มเติมว่า เนื้อทองคำจริง ๆ แล้ว สร้างไม่ถึง 9 เหรียญ
แต่เป็น 5 เหรียญ เพราะทุนทรัพย์ในการจัดสร้างไม่เพียงพอ ส่วนเนื้อทองแดง จำนวนตามใบขออนุญาต
คือ 10,000 เหรียญ ซึ่งค้านกับในครั้งแรกที่แกบอกผมว่า เนื้อทองแดง สร้าง 5,000 เหรียญ
ก็มีความเป็นไปได้ที่ทุนทรัพย์ในการสร้างเหรียญในครั้งนั้นไม่พอ เพราะในขณะนั้นแกก็ยังรับราชการอยู่
เงินเดือนก็ไม่มาก ต้องขอยืมพ่อแม่ ญาติ ๆ มาจัดสร้างด้วย อีกทั้งขณะนี้แกอายุ 77 ปี แล้ว
ก็จำจำนวนที่แท้จริงไม่ได้ แต่อย่างไรก็แล้วแต่ ไม่เกิน 10,000 เหรียญ เป็นแน่แท้